คำยืม คือคำภาษาต่างประเทศที่นำมาใช้ปะปนในภาษาไทยของเรา ทั้งนี้เพราะประเทศไทยมีการติดต่อกับประเทศต่าง
ๆ เช่น อินเดีย จีน
อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฯลฯ
ในเรื่องการติดต่อค้าขาย การรับนับถือศาสนา การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมประเพณี ฯลฯ ซึ่งทำให้ต้องเรียนรู้และใช้ภาษาเหล่านั้น
เมื่อนำมาใช้ก็มีการดัดแปลงการออกเสียงให้เข้ากับระบบเสียงและอักขรวิธีของภาษาไทย แต่ก็มีความพยายามรักษารูปคำเดิมของภาษานั้นๆเพื่อใช้เป็นที่สังเกตว่า คำนั้นมาจากภาษาใด
คำยืมเหล่านี้เมื่อจัดเข้าอยู่ในเรื่องคำมูล จะเป็นคำมูลหลายพยางค์ เช่น
วาซาบิ ซาลาเปา อายิโนะโมะโต๊ะ ฯลฯ คำยืมที่ควรรู้ ได้แก่
คำบาลี – สันสกฤต
เป็นคำยืมที่คนไทยใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่ออาคารสถานที่ ชื่อจังหวัด
เรียกว่าใช้จนชิน
จนไม่คิดว่าเป็นคำที่ไทยยืมมา
ตัวอย่าง
คำบาลี
|
คำสันสกฤต
|
คำที่ไทยใช้
|
ความหมาย
|
กฐิน
|
กฐิน
|
กฐิน
|
ผ้าที่ถวายพระที่จำพรรษาแล้ว
|
กปฏ
|
กปฏ
|
กบฏ
|
ความทรยศ
|
คำบาลี
|
คำสันสกฤต
|
คำที่ไทยใช้
|
ความหมาย
|
กนิฏฐ
|
ขนิษฐ
|
กนิษฐา,ขนิษฐา
|
ผู้น้อยที่สุด,น้อง,นิ้วก้อย
|
กมล
|
กมล
|
กมล
|
ดอกบัว,ใจ
|
กร,กรณ
|
กรณ
|
กร,กรณ์
|
ทำ
|
กรณีย
|
กรณีย
|
กรณีย์
|
กิจ,ควรทำ
|
กมฺม
|
กรฺมน
|
กรรม
|
การกระทำ
|
ขณ
|
กษณ
|
ขณะ
|
ชั่วเวลาหนึ่ง
|
ครุ
|
คุรุ
|
ครู
|
ครู
|
คติ
|
คติ
|
คติ ,คดี
|
ที่ไป,ข้อสอนใจ,เรื่อง
|
คพฺภ
|
ครฺภ
|
ครรภ์
|
ท้อง,ลูกในท้อง
|
จักขุ
|
จักษุ
|
จักษุ
|
ตา
|
จมฺพ
|
จพฺพ
|
จุมพิต
|
จูบ
|
คำเขมร เป็นคำยืมที่ใช้มานานพอๆกับภาษาบาลี สันสกฤต
สมัยโบราณเราเรียก
“ภาษาขอม” ถือกันว่าเป็นภาษาที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้บันทึกเรื่องราวทางศาสนาและพิธีกรรม คำภาษาเขมรในภาษาไทยมักใช้พยัญชนะ จ ,ร,ล,ญ เป็นตัวสะกด เช่น เผด็จ อำนาจ ตำรวจ ฉกาจ สมเด็จ ควร จาร ( จารึก ) บังอร ขจร จร ดล บันดาล ทูล กังวล ถวิล เพ็ญ เจริญ ชาญ ชำนาญ ผลาญ
ในการอ่าน คำเขมรหลายคำจะอ่านแบบอักษรควบ เช่น โตนด อ่านว่า ตะ-โหนด จมูก อ่าน จะ-หมูก ขนุน อ่านว่า ขะ – หนุน ถนน อ่านว่า ถะ – หนน สลับ อ่านว่า สะ-หลับ โขนง อ่านว่า ขะ – โหนง ที่อ่านแบบอักษรควบ เช่น ไพร ขลาด ขรัว พลู ฯลฯ
คำสองพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วย บัง บัน บรร บำ กำ ตำ ทำ สำ เหล่านี้ล้วนเป็นคำเขมร เช่น
บังอร บังเกิด บังควร บังเอิญ บังอาจ บังเหียน บังคับ
บันดาล บันเทิง บันทึก บันได บันดาล บันโดย
บรรทม บรรเทา บรรทัด บรรสาน บรรทุก บรรจง
กำนัล กำนล กำหนด กำเหนิด กำเหน็จ กำหนัด
ชำนาญ ชำรุด ชำนิ ชำแหละ ชำระ
ตำรวจ ตำหนิ ตำนาน
ทำนบ ทำเนียบ ทำงาน
สำราญ สำเริง สำโรง สำคัญ
“ภาษาขอม” ถือกันว่าเป็นภาษาที่ศักดิ์สิทธิ์ใช้บันทึกเรื่องราวทางศาสนาและพิธีกรรม คำภาษาเขมรในภาษาไทยมักใช้พยัญชนะ จ ,ร,ล,ญ เป็นตัวสะกด เช่น เผด็จ อำนาจ ตำรวจ ฉกาจ สมเด็จ ควร จาร ( จารึก ) บังอร ขจร จร ดล บันดาล ทูล กังวล ถวิล เพ็ญ เจริญ ชาญ ชำนาญ ผลาญ
ในการอ่าน คำเขมรหลายคำจะอ่านแบบอักษรควบ เช่น โตนด อ่านว่า ตะ-โหนด จมูก อ่าน จะ-หมูก ขนุน อ่านว่า ขะ – หนุน ถนน อ่านว่า ถะ – หนน สลับ อ่านว่า สะ-หลับ โขนง อ่านว่า ขะ – โหนง ที่อ่านแบบอักษรควบ เช่น ไพร ขลาด ขรัว พลู ฯลฯ
คำสองพยางค์ที่ขึ้นต้นด้วย บัง บัน บรร บำ กำ ตำ ทำ สำ เหล่านี้ล้วนเป็นคำเขมร เช่น
บังอร บังเกิด บังควร บังเอิญ บังอาจ บังเหียน บังคับ
บันดาล บันเทิง บันทึก บันได บันดาล บันโดย
บรรทม บรรเทา บรรทัด บรรสาน บรรทุก บรรจง
กำนัล กำนล กำหนด กำเหนิด กำเหน็จ กำหนัด
ชำนาญ ชำรุด ชำนิ ชำแหละ ชำระ
ตำรวจ ตำหนิ ตำนาน
ทำนบ ทำเนียบ ทำงาน
สำราญ สำเริง สำโรง สำคัญ
คำแผลงที่มีการแผลงอย่างเป็นระบบ
เช่น
แผลงคำที่คำเดิมขี้นต้นด้วย ข แผลงเป็น
ก เช่น ขจาย เป็น
กระจาย ขจัด เป็น
กระจัด ขดาน แผลงเป็น
กระดาน
แผลงคำที่ขี้นต้นด้วย ผ เป็น ประ เช่น ผสม เป็น ประสม ผสาน เป็น ประสาน ผกาย เป็น ประกาย
คำราชาศัพท์หลายคำมีทีมาจากภาษาเขมร เช่น เสด็จ เสวย ถวาย ตรัส ขนง เขนย โปรด บรรทม ผนวช เถลิง ฯลฯ
คำเขมรที่ใช้ในวรรณคดีไทย เช่น ไถง แถง แข ขจร ผกา เชวง ทรวง พนม ฯลฯ
แผลงคำที่ขี้นต้นด้วย ผ เป็น ประ เช่น ผสม เป็น ประสม ผสาน เป็น ประสาน ผกาย เป็น ประกาย
คำราชาศัพท์หลายคำมีทีมาจากภาษาเขมร เช่น เสด็จ เสวย ถวาย ตรัส ขนง เขนย โปรด บรรทม ผนวช เถลิง ฯลฯ
คำเขมรที่ใช้ในวรรณคดีไทย เช่น ไถง แถง แข ขจร ผกา เชวง ทรวง พนม ฯลฯ
คำภาษาจีน
คำภาษาจีนส่วนใหญ่มาจากภาษาจีนแต้จิ๋ว
ภาษาฮกเกี้ยนหรือกวางตุ้ง เรามักเขียนตรงกับเสียงที่ออก เช่น
กวยจั๊บ ก๋วยเตี๋ยว กวยจี๊
กุยช่าย จับฉ่าย ซาลาเปา
เปาะเปี๊ยะ โจ๊ก บะหมี่
เซ่งจี๊ เกี้ยมอี๋ ตือฮวน
โอเลี้ยง โอยั้วะ เฉาก๊วย
ตู้ ปุ้งกี๋ อั้งโล่
หยวนโล้ เก้าอี้ กุยเล้ย
เข่ง ตะหลิว ตะเกียบ
ตั๋ว ปาหี่ ยี่ห้อ
ห้าง ก๊ก กั๊ก
ตุ๋น ฯลฯ
คำภาษาญี่ปุ่น มักเป็นคำทับศัพท์ ไม่มีรูปวรรณยุกต์กำกับ ลงท้ายด้วยเสียงสระ เช่น
ซูชิ กิโมโน โตชิบา
ฮอนด้า ซามูไร เท็มปุระ
สึนามิ โออิชิ ฟูจิ
ฯลฯ
คำภาษาชวา มลายู
ปัจจุบันเรียกภาษาอินโดนีเซีย
ภาษามาเลเซีย
มักเป็นคำสองพยางค์
ไม่มีเสียงควบกล้ำ
และเสียงวรรณยุกต์ เช่น ทุเรียน
น้อยหน่า มังคุด สาคู
งูกะปะ หอยกะพง ปลากุเลา
อังกะลุง กุดัง กระจูด
บุหงา บุหลัน (พระจันทร์)
มัสยิด กระซัง ยี่เก บูดู
คำภาษามอญ ที่พบบ่อย
ๆ เช่น
กระทะ มะกรูด จัญไร
ตะราง พลาย ฝาละมี
สวะ พลอย ปี่
ฉาบ จะเข้ คลอง
เกวียน สวย ประเคน
กะเพรา พลู ฯลฯ
คำภาษาโปรตุเกส เช่น
สบู่ ปิ่นโต กะละแม
กะละมัง จับปิ้ง เลหลัง
บาทหลวง เหรียญ ฯลฯ
คำภาษาทมิฬ ทมิฬเป็นชนเผ่าใหญ่อยู่ทางอินเดียตอนใต้ เคยติดต่อค้าขายกับไทย คำที่พบได้แก่
กะไหล่ กุลี กานพลู
กำมะหยี่ จงกลนี ตะกั่ว
ตะกั่ว ยี่หร่า สาเก
อาจาด กะหรี่ (ชื่อแกง )
คำภาษาเปอร์เซีย เช่น
กากี สีกุหลาบ ลูกเกด
คาราวาน ตราชู บัดกรี
ฝรั่ง องุ่น
ผ้าสักหลาด ฯลฯ
คำภาษาอังกฤษ เป็นคำที่ใช้กันทั่วไป โดยเฉพาะในทางวิชาการ เช่นศัพท์วิทยาศาสตร์
ศัพท์เทคโนโลยี ศัพท์ที่ใช้ในทางแฟชั่น อาหาร และอื่น ๆ คำยืมภาษาอังกฤษเมื่อเขียนเป็นภาษาไทยใช้วิธีทับศัพท์ จะใช้ตัวอักษรไทยแทนอักษรโรมัน ไม่ใช้ไม้ไต่คู้กำกับสระเสียงสั้น แต่ใช้รูปสระสั้น - ยาว เสียงจึงแตกต่างจากเสียงสระที่ออกจริง ไม่ใช้ “ห” เขียนคำที่ออกเสียงแบบ “ห” นำ ไม่ใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์กำกับเสียงให้ใกล้เคียงกับเสียงที่ออกจริง ปัจจุบันคำยืมภาษาอังกฤษที่ปรากฏในพจนานุกรม พ.ศ ๒๕๔๒ ก็เขียนตามพจนานุกรม คำที่ไม่ปรากฏในพจนานุกรมก็เขียนให้ใกล้เคียงกับเสียงที่คนไทยออกจริง
ผ้าสักหลาด ฯลฯ
คำภาษาอังกฤษ เป็นคำที่ใช้กันทั่วไป โดยเฉพาะในทางวิชาการ เช่นศัพท์วิทยาศาสตร์
ศัพท์เทคโนโลยี ศัพท์ที่ใช้ในทางแฟชั่น อาหาร และอื่น ๆ คำยืมภาษาอังกฤษเมื่อเขียนเป็นภาษาไทยใช้วิธีทับศัพท์ จะใช้ตัวอักษรไทยแทนอักษรโรมัน ไม่ใช้ไม้ไต่คู้กำกับสระเสียงสั้น แต่ใช้รูปสระสั้น - ยาว เสียงจึงแตกต่างจากเสียงสระที่ออกจริง ไม่ใช้ “ห” เขียนคำที่ออกเสียงแบบ “ห” นำ ไม่ใช้เครื่องหมายวรรณยุกต์กำกับเสียงให้ใกล้เคียงกับเสียงที่ออกจริง ปัจจุบันคำยืมภาษาอังกฤษที่ปรากฏในพจนานุกรม พ.ศ ๒๕๔๒ ก็เขียนตามพจนานุกรม คำที่ไม่ปรากฏในพจนานุกรมก็เขียนให้ใกล้เคียงกับเสียงที่คนไทยออกจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น